“ระบบหัวใจและหลอดเลือด” คนเราพออายุมากขึ้นหลอดเลือดแดงจะแข็งไม่ยืดหยุ่น ประสิทธิภาพลดลง จึงเป็นที่มาในการเกิดภาวะแทรกซ้อนบ่อยๆ
“ระบบทางเดินหายใจ” ความจุปอดของผู้สูงอายุใกล้เคียงกับคนหนุ่มสาว จึงควรให้ผู้สูงอายุออกกำลังกายและฝึกหายใจเข้าออกลึก ๆ ช้า ๆ เป็นประจำ เพื่อช่วยขยายปอด
“ระบบทางเดินอาหาร” ตั้งแต่เริ่มต้นเหงือกและฟัน ต่อมรับรสในปาก เมื่อแก่ตัวลง ประสิทธิภาพในการทำงานก็จะลดลงตาม และทำให้ปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมาอีกหลายอย่างๆ
“ระบบประสาท” ความจำระยะสั้นจะเสียหายไปบ้าง แต่ความจำระยะยาวยังดีอยู่ การขี้หลงขี้ลืมธรรมดาไม่เป็นไร แต่ถ้าหลงเอาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วกับเมื่อวานมาปนกัน อย่างนี้จึงจะถือว่าผิดปกติ
“ประสาทรับรู้” ประสาทสัมผัส การรับรู้สัมผัสต่าง ๆ ของผู้สูงอายุเสื่อมลง มีปฏิกิริยาตอบสนองช้ากว่าเดิม
“ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย” ผู้สูงอายุมีโอกาสติดเชื้อบางอย่างง่ายขึ้น เพราะการสร้างภูมิต้านทานเสื่อมลง
“กล้ามเนื้อและมวลกระดูก” กล้ามเนื้อของผู้สูงอายุลีบเล็กลง อ่อนแอลง ถ้าไม่ได้เคลื่อนไหวนาน ๆ กล้ามเนื้อนั้นก็จะฝ่อลง บวกกับระบบประสาทที่ควบคุมการทรงตัวทำงานด้อยลง
“ฮอร์โมน” ระดับฮอร์โมนหลายชนิดลดลงตั้งแต่วัยกลางคน ต่อมไทรอยด์จะทำงานแปรปรวนไป
“ความรู้สึกนึกคิดและจิตใจ” ก็เปลี่ยนไปด้วย สังคมมีอิทธิพลต่อจิตใจของผู้สูงอายุอย่างมาก จากที่ท่านเคยไปทำงานทุกวันมาแทบทั้งชีวิต หลายท่านรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าน้อยลง สูญเสียความเป็นผู้นำทั้งนอกบ้านในบ้าน มีผลโยงไปถึงปัญหาทางด้านโภชนาการ เบื่ออาหารและถ้าหากไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ก็จะเกิดปัญหาสุขภาพตามมา ดังนั้น ลูก ๆ หลาน ๆ อย่าลืมดูแลจิตใจของท่านด้วย